ซื้อใจลูกค้าทุกอย่างเท่าที่จะสามารถทำได้
การซื้อใจลูกค้านั้นเปรียบเสมือนกับคุณได้ซื้อสิ่งหนึ่งบางอย่างที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากที่ไหนยกเว้นเพียงแค่ลูกค้าของคุณเท่านั้น
การซื้อใจลูกค้ามีด้วยกันอยู่หลายวิธีแต่ละวิธีก็อาจจะเกิดจากความผิดพลาดซึ่งทำให้คุณต้องรีบซื้อน้ำใจลูกค้าของคุณก่อนที่จะเสียลูกค้านั้นๆไป
อย่างหมวกย่อยในข้างต้นที่ผมกล่าวไว้ว่า
ผมเคยส่งสินค้าผิดให้กับลูกค้าซึ่งลูกค้าได้สั่งสินค้าแบบนี้
เงินจำนวนเท่านี้แต่ผมกับส่งสินค้าอีกอย่างหนึ่งไปให้เค้าแต่ยังอยู่ในราคาพอๆกัน
ดังนั้นผมจึงยกสินค้าชิ้นนั้นให้เค้าไปและก็ส่งสินค้าที่ถูกต้องให้ลูกค้าอีกทีซึ่งผมก็ไม่คิดค่าขนส่งใสดๆทั้งสิ้น
ผมคิดว่าเหตุการที่เกิดขึ้นเจ้าของร้านเป็นฝ่ายผิดแต่เพียงผู้เดียวซึ่งทำให้ลูกค้านั้นไม่ได้ใช้สินค้าตามที่ต้องการ
แต่ผลตอบรับกับมาก็คือลูกค้าของผมนั้นประทับใจกับการบริการที่เป็นแบบนี้มาก ซึ่งลูกค้าของผมก็บอกร้านค้าดีๆแบบนี้หายากนักในปัจจุบัน
ซึ่งลูกค้าท่านนี้ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แต่ไม่ได้เป็นแบบนี้คือ
ร้านค้าที่ส่งสินค้าผิดไปนั้นให้ลูกค้าส่งสินค้าคืนมา
และไม่ยอมโอนเงินหรือให้ส่วนลด หรือ มีของแถม อะไรให้กับลูกค้าท่านนี้เลย
ดังนั้นลูกค้าท่านนี้จึงไม่คิดจะไปสั่งสินค้าร้านนี้อีกเลยไม่ว่าสินค้าร้านนี้จะเลิศหรู
สวยเพียงใด
อีกตัวอย่างนึงของค่ายยักษใหญ่อย่าง
Apple ที่เคยประสบปัญหาเหมือนกันคือ
ทาง Apple
นั้นได้คาดการณ์ถึงผลดีผลเสียของการไม่มี Bluetooth ไว้ก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะหากมีลูกค้าเรียกร้องมากจริงๆ ทาง Apple
ก็จะผลิต Accessories Bluetooth ออกมาวางขายโกยเงินกันอีกรอบ
เรียกได้ว่าการทำเช่นนี้นอกจากจะไม่ถูกต่อว่าทีหลังแล้ว สำหรับผู้ที่ซื้อไปก่อนก็จะรู้สึกได้ว่าไม่ถูกทอดทิ้งอีกด้วย
ดังเช่นข่าวการลดราคา iPhone ลงมาถึง 100 เหรียญเมื่อกลางๆ เดือนกันยายน ลูกค้าที่ซื้อ iPhone ไปแล้วหลายรายหนึ่งได้ต่อว่าสตีฟ จ้อบส์อย่างรุนแรงในกรณีลดราคา iPhone
แต่อย่างไรก็ตามทาง Apple ก็ยินดีที่จะซื้อใจลูกค้าเอาไว้ด้วยการยอมจ่ายให้
100 เหรียญเป็นส่วนลดในร้าน iStudio สำหรับลูกค้าที่ซื้อ
iPhone ก่อนหน้านั้น ซึ่งไม่เคยมีธุรกิจไหนกล้าทำเช่นนี้มาก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น